พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [55. ภัททิยวรรค] 3. สีวลีเถราปทาน
[78] ด้วยกรรมที่ข้าพเจ้าได้ทำไว้ดีแล้วนั้น
และด้วยเจตนาที่ตั้งไว้มั่น
ข้าพเจ้าละกายมนุษย์แล้ว
จึงได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
[79] ข้าพเจ้าได้เป็นพระเจ้าแผ่นดิน
ผู้มียศยิ่งใหญ่ในกรุงพาราณสีอีก
ครั้งนั้น ข้าพเจ้าแค้นใจศัตรูจึงสั่งทหาร
ให้ปิดประตูเมือง
[80] ครั้งนั้น เหล่าพระราชาผู้มีเดช
ที่ถูกล้อมรักษาไว้ได้เพียงวันเดียว
เพราะวิบากแห่งกรรมนั้น
ข้าพเจ้าจึงต้องตกนรกที่ร้ายกาจ
[81] บัดนี้ เป็นภพสุดท้าย ข้าพเจ้าเกิดในกรุงโกลิยะ
พระชนนีของข้าพเจ้าพระนามว่าสุปปวาสา
พระชนกของข้าพเจ้าพระนามว่ามหาลิลิจฉวี
[82] ข้าพเจ้าเกิดในขัตติยตระกูลก็เพราะบุญกรรม
แต่เพราะอานุภาพแห่งการปิดประตูเมือง
ข้าพเจ้าจึงต้องประสบทุกข์
อยู่ในพระครรภ์ของพระมารดาถึง 7 ปี
[83] ข้าพเจ้าหลงช่องคลอดอีก 7 วัน ประสบทุกข์หนัก
พระมารดาของข้าพเจ้าต้องประสบทุกข์แสนสาหัสเช่นนี้
ก็เพราะมีความพอใจให้ปิดประตูเมือง
[84] ข้าพเจ้าผู้ที่พระพุทธเจ้าทรงอนุเคราะห์แล้ว
จึงคลอดออกจากพระครรภ์ของพระมารดาโดยความสวัสดี
ข้าพเจ้าได้ออกบวชเป็นบรรพชิตในวันที่คลอดนั่นเอง
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [55. ภัททิยวรรค] 3. สีวลีเถราปทาน
[85] พระสารีบุตรเถระผู้มีปัญญามาก
เป็นพระอุปัชฌาย์ของข้าพเจ้า
พระมหาโมคคัลลานเถระผู้มีฤทธิ์มาก
เมื่อปลงผมให้ได้พร่ำสอนข้าพเจ้า
[86] ในขณะกำลังปลงผม ข้าพเจ้าก็ได้บรรลุอรหัตตผล
ทวยเทพ หมู่นาค และมนุษย์ทั้งหลาย
ต่างก็น้อมนำปัจจัยเข้ามาถวายข้าพเจ้า
[87] ข้าพเจ้าเป็นผู้มีใจยินดีปรีดา
บูชาพระโลกนาถพระนามว่าปทุมุตตระ
และพระพุทธเจ้าพระนามว่าวิปัสสี
ผู้ทรงเป็นผู้นำวิเศษด้วยปัจจัยทั้งหลายโดยพิเศษ
[88] ด้วยผลอันวิเศษแห่งกรรมนั้น
ข้าพเจ้าจึงได้ลาภที่อุดมไพบูลย์ในที่ทุกแห่ง
คือในป่า ในบ้าน ในน้ำ และบนบก
[89] ในคราวใด พระพุทธเจ้าทรงเป็นผู้นำชั้นเลิศในโลก
เป็นผู้นำวิเศษพร้อมด้วยภิกษุ 30,000 รูป
เสด็จไปเยี่ยมพระเรวตะ
[90] ในคราวนั้น ข้าพเจ้าบำรุงพระพุทธเจ้า
ผู้ทรงมีปรีชามาก ทรงมีความเพียรมาก
ทรงเป็นผู้นำสัตว์โลก พร้อมด้วยพระสงฆ์ด้วยปัจจัย 4
ที่เหล่าเทวดาน้อมนำมาถวายข้าพเจ้า
[91] พระองค์ได้เสด็จเยี่ยมพระเรวตะแล้ว
ภายหลังเสด็จกลับไปยังพระเชตวันมหาวิหาร
จึงทรงแต่งตั้งข้าพเจ้าไว้ในเอตทัคคะ
